เมนู

ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุบาสกประกอบด้วยธรรม 5 ประการนี้แล เหมือนถูก
นำมาวางไว้ในนรก.
ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุบาสกประกอบด้วยธรรม 5 ประการ เหมือน
ถูกเชิญมาอยู่ในสวรรค์ ธรรม 5 ประการเป็นไฉน ? คืออุบาสกเป็นผู้งดเว้น
จากปาณาติบาต ฯลฯ เป็นผู้งดเว้นจากการดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัยอันเป็นที่
ตั้งแห่งความประมาท ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย อุบาสกประกอบด้วยธรรม 5
ประการนี้แล เหมือนถูกเชิญมาอยู่ในสวรรค์.
จบนิรยสูตรที่ 3

อุปาสกวรรควรรณนา ที่ 3


อรรถกถาสารัชชสูตรที่ 1 วิสารทสูตรที่ 2 นิรยสูตรที่ 3


สูตรที่ 1-2-3 แห่งอุปาสกวรรคที่ 3

ท่านกล่าวถึง อคาริยปฏิบัติ
(ข้อปฏิบัติของผู้ครองเรือน.) แม้จะเป็นพระโสดาบัน และพระสกทาคามี
อคาริยปฏิบัติก็ย่อมควรทั้งนั้น.
จบอรรถกถาสูตรที่ 1-2-3

4. เวรสูตร


ว่าด้วยภัยเวร 5 ประการ


[174] ครั้งนั้น ท่านอนาถบิณฑิกคฤหบดีเข้าไปเฝ้าพระผู้มีพระภาค-
เจ้าถึงที่ประทับ ถวายบังคมแล้ว นั่ง ณ ที่ควรส่วนข้างหนึ่ง ครั้งนั้น พระ
ผู้มีพระภาคเจ้าได้ตรัสว่า ดูก่อนคฤหบดี อุบาสกไม่ละภัยเวร 5 ประการ

เราเรียกว่าผู้ทุศีลด้วย ย่อมเข้าถึงนรกด้วย ภัยเวร 5 ประการเป็นไฉน ?
คือ การฆ่าสัตว์ การลักทรัพย์ การประพฤติผิดในกาม การพูดเท็จ การดื่ม
น้ำเมาคือสุราเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ดูก่อนคฤหบดี อุบาสกผู้ไม่
ละภัยเวร 5 ประการนี้แล เราเรียกว่า ผู้ทุศีลด้วย ย่อมเข้าถึงนรกด้วย.
ดูก่อนคฤหบดี อุบาสกผู้ละภัยเวร 5 ประการ เราเรียกว่าผู้มีศีลด้วย
ย่อมเข้าถึงสุคติด้วย ภัยเวร 5 ประการเป็นไฉน ? คือ การฆ่าสัตว์ ฯลฯ
การดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ดูก่อนคฤหบดี
อุบาสกผู้ละภัยเวร 5 ประการนี้แล เราเรียกว่า ผู้มีศีลด้วย ย่อมเข้าถึงสุคติด้วย.
ดูก่อนคฤหบดี อุบาสกผู้ฆ่าสัตว์ ย่อมประสบภัยเวรใด ทั้งในปัจจุบัน
ทั้งในสัมปรายภพ ย่อมเสวยทุกขโทมนัสใดแม้ทางจิต เพราะเหตุฆ่าสัตว์
อุบาสกผู้งดเว้นจากปาณาติบาต ย่อมไม่ประสบภัยเวรนั้น ทั้งในปัจจุบัน
และในสัมปรายภพ ย่อมไม่เสวยทุกขโทมนัสนั้นแม้ทางจิต ภัยเวรนั้น ของ
อุบาสกผู้งดเว้นจากปาณาติบาตย่อมสงบระงับด้วยประการฉะนี้ อุบาสกผู้ลัก
ทรัพย์ . . . ประพฤติผิดในกาม. . . พูดคำเท็จ . . . ดื่มน้ำเมาคือสุราและเมรัย
อันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ย่อมประสบภัยเวรใด ทั้งในปัจจุบันและสัม-
ปรายภพ ย่อมเสวยทุกขโทมนัสใดแม้ทางจิต เพราะเหตุแห่งการดื่มน้ำเมาคือ
สุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท อุบาสกผู้งดเว้นจากการดื่มน้ำเมา
คือสุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่งความประมาท ย่อมไม่ประสบภัยเวรนั้น
ทั้งในปัจจุบันและในสัมปรายภพ ย่อมไม่เสวยทุกขโทมนัสแม้ทางจิต ภัยเวร
นั้น ของอุบาสกผู้งดเว้นจากการดื่มน้ำเมา คือสุราและเมรัยอันเป็นที่ตั้งแห่ง
ความประมาท ย่อมสงบระงับด้วยประการฉะนี้.
นรชนใดย่อมฆ่าสัตว์ ถือเอาสิ่งของ
ที่เจ้าของมิได้ให้ในโลก คบชู้ภรรยาของ

ผู้อื่น กล่าวคำเท็จ และประกอบการดื่ม
สุราเมรัยเนือง ๆ นรชนนั้นไม่ละเวร 5
ประการแล้ว เราเรียกว่า เป็นผู้ทุศีล มี
ปัญญาทราม ตายไปแล้วย่อมเข้าถึงนรก.
นรชนใดไม่ฆ่าสัตว์ ไม่ถือเอาสิ่งของ
ที่เจ้าของมิได้ให้ในโลก ไม่คบชู้ภรรยา
ของผู้อื่น ไม่กล่าวคำเท็จและไม่ประกอบ
การดื่มสุราและเมรัย นรชนนั้นละเวร 5
ประการแล้ว เราเรียกว่าเป็นผู้มีศีล มี
ปัญญา เมื่อตายไปแล้ว ย่อมเข้าถึงสุคติ.

จบเวรสูตรที่ 4

อรรถกถาเวรสูตร


พึงทราบวินิจฉัยในเวรสูตรที่ 4 ดังต่อไปนี้ :-
บทว่า ภยานิ ได้แก่ ภัยอันทำให้จิตสะดุ้งแล้ว. บทว่า เวรานิ
ได้แก่ อกุศลเวรบ้าง บุคคลเวรบ้าง. บทว่า เจตสิกํ ได้แก่ ทุกข์อาศัย
จิต. บทว่า ทุกฺขํ ได้แก่ทุกข์มีกายประสาทเป็นวัตถุที่ตั้ง. บทว่า โทมนสฺสํ
ได้แก่ โทมนัสเวทนา. ในสูตรนี้พระผู้มีพระภาคเจ้าตรัสการละ ด้วยวิรัติ
เจตนางดเว้น.
จบอรรถกถาเวรสูตรที่ 4